วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2556

elf

                                                         
                                        
เอลฟ์ (อังกฤษ: elf) คือสิ่งมีชีวิตอมนุษย์ในตำนานนอร์สและตำนานปรัมปราในกลุ่มประเทศเจอร์เมนิก (สแกนดิเนเวียและเยอรมัน) เมื่อแรกเริ่ม แนวคิดเกี่ยวกับพวกเอลฟ์คือ "ชนเผ่าที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติและเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ ภาพวาดของชนเหล่านี้มักเป็นมนุษย์ทั้งชายและหญิงที่แลดูอ่อนเยาว์และงดงาม อาศัยอยู่ในป่า ในถ้ำ ใต้พื้นดิน หรือตามบ่อน้ำและตาน้ำพุ มักเชื่อกันว่าพวกเขามีชีวิตยืนยาวมากหรืออาจเป็นอมตะ รวมทั้งมีพลังเวทมนตร์วิเศษ

     แต่หลังจาก ลอร์ดออฟเดอะริงส์ ผลงานอันโด่งดังของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ปรากฏออกมา ภาพของเอลฟ์ก็กลายเป็นผองชนผู้เป็นอมตะและเฉลียวฉลาด ทั้งที่คำว่า เอลฟ์ ในวรรณกรรมของโทลคีนมีความหมายแตกต่างไปคนละทางกับตำนานโบราณโดยสิ้นเชิงนอกจากนี้ เอลฟ์ยังมีบทบาทสำคัญอยู่ในวรรณกรรมแฟนตาซีสมัยใหม่ และเป็นตัวละครพื้นฐานในเกมแฟนตาซียุคใหม่ด้วย...

 พวกเอล์ฟตื่นขึ้นในยุคที่หนึ่งของ ยุคแห่งพฤกษา ที่ริมทะเลสาบ คุยวิเอเนน ทางตะวันออกของ มิดเดิ้ลเอิร์ธ เวลานั้นโลก อาร์ดา ยังไม่มีดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ มีแต่เพียงแสงสว่างจากแสงดาว พวกเอล์ฟจึงมองเห็นแสงดาวเป็นสิ่งแรก และหลงรักในแสงดาวเหล่านั้น
     เทพโอโรเม เป็น วาลาร์ องค์แรกที่มาพบการตื่นของพวกเอล์ฟ และนำข่าวกลับไปแจ้งยังวาลินอร์ ในยุคนั้น**วาลาร์ทั้งปวงอาศัยอยู่ที่วาลินอร์บน ทวีปอามัน ส่วน**มิดเดิ้ลเอิร์ธตกอยู่ใต้การก่อความวุ่นวายของ เมลคอร์

     เมลคอร์ยังลอบจับตัวเอล์ฟบางคนไปทรมานและดัดแปลงให้กลายเป็น ออร์ค เหล่าวาลาร์จึงมีดำริให้พวกเอล์ฟอพยพมาอยู่ที่ทวีปอามันด้วยกัน เมื่อนั้นจึงเกิดเป็น การเดินทางครั้งใหญ่ ( The Great Journey ) 
เป็นเหตุให้เกิดการแบ่งชาติพันธุ์ของเอล์ฟเป็นกลุ่มต่างๆ
ที่มาของชื่อ

     คำว่า "เอลฟ์" ในภาษาอังกฤษ มาจากภาษาอังกฤษโบราณว่า ælf (บ้างเรียกว่า ylf) ซึ่งมาจากคำในตระกูลโปรโต-เยอรมันว่า *albo-z, *albi-z  ภาษานอร์สโบราณว่า álfr เยอรมันยุคกลางชั้นสูงว่า elbe ในตำนานอังกฤษยุคกลางนับถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 ถือว่า เอลฟ์ (elf) เป็นเพศชาย ส่วนเพศหญิงจะเรียกว่า elven (ภาษาอังกฤษโบราณว่า ælfen ซึ่งมาจาก *albinnja)

     แต่รากคำดั้งเดิมยิ่งกว่านั้นน่าจะมาจากคำในภาษาตระกูล โปรโต-อินโด-ยู โรเปียน คือ *albh- ซึ่งมีความหมายว่า "ขาว" อันเป็นรากเดียวกันกับคำในภาษาละติน albus ที่แปลว่า "ขาว" อย่างไรก็ดีมีอีกทฤษฎีหนึ่งเสนอว่า คำนี้น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับ Rbhus นายช่างนักพยากรณ์ในตำนานเก่าแก่ของอินเดีย (ดู พจนานุกรมของอ๊อกซฟอร์ด) แนวคิดนี้ดูหนักแน่นกว่ารากคำในภาษาละตินมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น