วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2556

Chimera


มีตำนานกรีกเล่าว่าไคมีร่าทำความเสียหายให้ กับเมือง Lycia ดังนั้นพระราชา Iobates จึงหาคนที่จะกำจัดมัน และได้ Bellerophon เป็นผู้รับภารกิจ Bellerophon ไปจับม้าบินเพกาซัส และใช้มันในการสู้กับไคมีร่า โดยบินขึ้น และต่อสู้กับไคมีร่า และในที่สุดเขาชนะ ซึ่งในเรื่องการต่อสู้กับไคมีร่านี้บ้างว่า เขายิงธนูลงมาใส่ไคมีร่า และฆ่ามันได้ บ้างว่าเขาใช้ก้อนตะกั่วติดที่ปลายหอก แล้วขว้างเข้าไปในปากไคมีร่า เมื่อมันพ่นไพออกมาตะกั่วจึงละลายแล้วไหลลงคอไคมีร่า จึงทำให้มันตาย
    
ต้นกำเนิดไคมีร่า
      ต้นกำเนิดตำนานของไคมีร่าไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด มี เรื่องหนึ่งว่าภูเขา Yanar ใน Lycia เป็น ภูเขาไฟที่เชื่อว่าเป็นตัวแทนของไคมีร่า เพราะบนยอดเขามีสิงโต, กลางเขาเป็นทุ่งหญ้าที่มีแพะอยู่ และทุกที่ของภูเขาเต็มไปด้วยงู และเชื่อว่า Bellerophon เป็นคนแรกที่ตั้งถิ่นฐานที่นั่น


 
รูปหล่อของไคมีร่า

     รูปหล่อของไคมีร่าที่สมบูรณ์ที่สุดจากสมัยโบราณน่าจะเป็นรูปหล่อสัมฤทธิ์ ที่ขุดขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1553 ที่เมือง Arezzo ประเทศอิตาลี เรียกว่า Chimaera of Arezzo รูปหล่อนี้เป็นงาน ฝีมือของชาว อีทรัสแคน(Etruscan) ท่าทางของ รูปหล่อไคมีร่านี้คือ ปากเปิด, ลำตัวโค้งขึ้น และขาหน้าเหยียดตรงไปข้างหน้า ที่ขาขวาหน้ามีอักษรสลักอยู่ อ่านได้หลายแบบเช่น Timmsifil, Taninhesel, Tiumquil

 ไคมีร่าเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาคริสต์ในยุคโรมัน และเป็นสัญลักษณ์ของ การผสมกันทางลักษณะทางพันธุกรรมของสัตว์ต่างชนิดกัน สำหรับไคมีร่ากับ Bellerophon เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของความดีเหนือความชั่ว


     จากการที่ไคเมร่าเป็นส่วนผสมของสัตว์ร้าย 3 ชนิด ที่ไม่น่าจะมารวมกันได้ คำว่า ไคเมร่า (Chimera) จึงใช้เป็นชื่อเรียกของสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างแปลกประหลาดในปัจจุบัน เช่น ปลาทะเลน้ำลึกจำพวกหนึ่ง ซึ่งเป็นปลากระดูกอ่อน ก็ถูกเรียกว่า ไคเมร่า ด้วยเช่นกัน
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น